JR คว้างานใหม่มูลค่า 137 ลบ.รื้อย้ายระบบสื่อสาร-โทรคมนาคมโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ดันBacklog ทะลุ 3,611 ลบ. หนุนอนาคตเติบโตมั่นคง

JR คว้างานใหม่มูลค่า 137 ลบ.รื้อย้ายระบบสื่อสาร-โทรคมนาคมโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ดันBacklog ทะลุ 3,611 ลบ. หนุนอนาคตเติบโตมั่นคง

บมจ.เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ (JR) คว้างานใหม่ถี่ยิบ ล่าสุดคว้างานรื้อย้ายระบบสื่อสารและโทรคมนาคมที่กีดขวางงานก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ สัญญาที่ 1 จากกิจการร่วมค้า"ซีเคเอสที-พีแอล" มูลค่ารวม 137 ล้านบาท ฟากซีอีโอ "จรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ" ระบุการรับงานครั้งนี้ ส่งผลให้ backlog เพิ่มขึ้นแตะ 3,611 ล้านบาท ทยอยรับรู้ยาวถึง 3 ปี  เผยโค้งสุดท้ายเดินหน้าประมูลงานใหม่อีกเพียบ มั่นใจสนับสนุนผลงานเติบโตอย่างมั่นคง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น  

นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) (JR) เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นเอกสารเสนอราคางานรื้อย้ายระบบสื่อสารและโทรคมนาคมที่กีดขวางงานก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ สัญญาที่ 1 กับ กิจการร่วมค้า "ซีเคเอสที-พีแอล"ฯ และบริษัทได้รับการตอบรับจากกิจการร่วมค้าฯ ให้ บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินงานดังกล่าว คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 137 ล้านบาท  

"การรับงานใหม่ในครั้งนี้ส่งผลให้มูลค่างานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) เพิ่มขึ้นแตะระดับ 3,611 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ยาวถึง 3 ปีข้างหน้า และบริษัทฯยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มมูลค่างานในมือ ซึ่งจะสร้างรายได้รองรับการเติบโตในอนาคตได้อย่างมั่นคง และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง" 

นายจรัญกล่าวต่อถึงไตรมาส 4/2565 ว่าสถานการณ์โดยรวมของประเทศเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้ภาครัฐและเอกชนได้เปิดประมูลงานใหม่อย่างคึกคัก ซึ่งคาดว่าจากนี้ไปจะมีงานใหม่เปิดประมูลกว่า7,000 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู เฟสที่ 2 มูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท โครงการรื้อย้ายและสร้างใหม่ระบบโทรคมนาคมของรถไฟฟ้าสายอื่นๆ รวมทั้งงานวางระบบไฟฟ้า อีกราว 300 ล้านบาท จึงทำให้มั่นใจว่าผลงานทั้งปีน่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้  

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา บริษัทฯได้รับงานใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวม 93 ล้านบาท  ประกอบด้วยโครงการElectrical and Instrument Work for CFP Concurrent Work Project – Package LCO New LCO and Associated Fuel Oil Facilities กับบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 62.13 ล้านบาท โดยบริษัทมีระยะเวลาในการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 23 เดือน นับถัดจากวันที่ลงนามในสัญญา 

รวมทั้งได้ลงนามในสัญญาสำหรับ โครงการ Electrical and Instrument Work for CFP Concurrent Work Project – Package LCO New LCO and Associated Fuel Oil Facilities กับบริษัท ไทยลู้บเบสจำกัด (มหาชน) (TLB) รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 31.77ล้านบาท โดยบริษัทมีระยะเวลาในการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 23 เดือน นับถัดจากวันที่ลงนามในสัญญา 

ข่าวเกี่ยวข้อง